หน่วยที่ 3 คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
1.ประวัติของคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบัน เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาหลายร้อยปี เริ่มจากการสร้างอุปกรณ์ที่ไม่มีกลไกซับซ้อน จนกลายมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูง ที่นำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อนำมาช่วยทำงาน ด้านการคำนวณประมวลผล และสามารถนำไปใช้ในการควบคุมผลผลิตงานทางด้านอุตสาหกรรมในโรงงานต่างๆ
อุปกรณ์ชิ้นแรกซึ่งที่มาของคอมพิวเตอร์ เริ่มจากการคิดค้นจากชาวจีนในช่วงปี พ.ศ. 500 มีการประดิษฐ์ลูกคิด(Abacus) ขึ้นมาช่วยในการคิดเลข ถือได้ว่าเครื่องคิดเลขนี้ เป็นต้นกำเนิดของเครื่องคิดเลขในยุคต่อมา
รูป ลูกคิดเพื่อคิดเลขของชาวจีน(เครื่องคำนวณในยุคแรก)
ปี พ.ศ.
2185 แบลส์
พาสคัส
(Blaise
Pascal) นักวิทยาศาสตร์และปรัชญาชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์เครื่องคิดเลขสามารถใช้งาน เครื่องมือเขาสร้างขึ้นใช้ในการคำนวณ สามารถใช้ บวก และลบค่าตัวเลขอย่างถูกต้อง
รูป เครื่องคำนวณของพาสคัล
 |
ชาร์ล แบบเบจ |
ปี พ.ศ.
2376 ชาร์ล
แบบเบจ ได้สร้างเครื่องคำนวณที่ทำงาน โดยอาศัยโปรแกรมเป็นเครื่องแรกของโลกเราใช้เกียรติยกย่องว่าเขาเป็นบิดาแห่งคอมพวิเตอร์ เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เขาสร้างขึ้น เป็นต้นแบบหรือแนวทาง ที่นำไปสู่การพัฒนา ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ใช้กันในปัจจุบัน
ปี พ.ศ. 2489 คณะนักวิจัยของประเทศสหรัฐอเมริกาทีมงานหนึ่งได้มีการพัฒนาและสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์
ระบบอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลกมีชื่อเรียกว่า อินิเอ็ก
(ENIAC) เพื่อใช้ในวิถีกระสุนปืนใหญ่ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีความสามารถคำนวณสมการที่สลับซับซ้อนได้ รวดเร็วและถูกต้องใช้งานทดแทนกำลังคนได้หลายร้อยเท่า จากนั้นมีการ พัฒนาและปรับปรุงเป็นระบบเล็ก
หรือที่เราเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal
Computer หรือ
PC) มีความสามารถในการทำงานไม่ด่อยไปกว่าเครื่องขนาดใหญ่ และสามารถนำเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทนี้มาใช้ในระบบงานทั่วไปได้
เครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดตั้งโต๊ะในยุคแรก
2.ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คือ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ประเภทอิเล็กทรอนิคส์
ที่ทำงานด้วยคำสั่ง
ชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้หลายแบบ
รวมทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ด้วยลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์คือ มีศักยภาพสูงในการคำนวณประมวลผลข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข รูปภาพ ตัวอักษร และเสียง ทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ ที่สามารถนำมาประยุกต์ ใช้กับงานได้อย่างกว้างขวาง
3.ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานได้อย่างครบถ้วนอย่างมีประสิทธิภาพต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
หมายถึง
ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้
เช่น ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เป็นต้น
ฮาร์ดแวร์ แบ่งออกเป็นหน้าที่สำคัญ
5 ส่วน คือ
1.หน่วยรับข้อมูล(Input
Unit) ทำหน้าที่ป้อนสัญญาณ เข้าสู่ระบบเพื่อกำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น แป้นอักขระ (Keyboard) เมาส์(Mouse) ซีดีรอม(CD-Rom) ฯลฯ
2.หน่วยประมวลผลกลาง(Central
Processing Unit : CPU)ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศษสตร์ รวมทั้งประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
3.หน่วยความจำ (Memory
Unit) ทำหน้าที่เก็บข้อมูล
4.หน่วยแสดงผล(Output
Unit) ทำหน้าที่แสดงผลข้อมูล ที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลหรือผ่านการคำนวณแล้ว
5. อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆเป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้มากยิ่งขึ้น
4 .ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ประโยชน์ที่เราได้รับจากการนำคอมพิวเตอร์ มาใช้งานสามารถแบ่งได้ดังนี้
1. มีความเร็วในการทำงานสูง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ในปัจจุบันสามารถประมวลผลคำสั่ง ช่วงเวลา 1 วินาที ได้มากกว่า 1 ร้อยล้านคำสั่งจึงใช้ในการคำนวณต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
2. มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3.มีความถูกต้องแม่นยำตามโปรแกรมที่สั่งงานและข้อมูลที่ใช้
4.เก็บข้อมูลได้มาก ไม่ต้องใช้เอกสารและตู้เก็บ
5.สามารถโอนย้ายข้อมูล จากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึงโดยผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน
5.ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์
หมายถึง
กรรมวิธีที่คอมพิวเตอร์ทำงานใดๆกับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้ใช้มากที่สุด
เช่น
การตรวจสอบข้อมูลประชากรจากระบบทะเบียนราษฎร์
ถ้าต้องการทราบข้อมูลต่างๆเหล่านี้
สามารถตรวจสอบได้โดยการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
6.องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานอย่างมีประกอบด้วยส่วนสำคัญ
4 ส่วนดังนี้
1.ฮาร์ดแวร์
(Hardware)หรือส่วนเครื่อง
2.ชอฟต์แวร์(Software)หรือส่วนชุดสั่ง
3.ข้อมูล(Data)
4.บุคลากร(People)
ภาพ แสดง องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
1.ฮาร์ดแวร์
(Hardware)
ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ตัวเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราสามารถสัมผัสและจับต้องได้
ฮาร์ดแวร์จะประกอบด้วยส่วนที่สำคัญ 4 ส่วน ดังนี้
1.ส่วนประมวลผล
(processor)
2. ส่วนความจำ
(memory )
3. อุปกรณ์รับเข้าและส่งออก
(input -output device)
4. อุปกรณ์หน่วยเก็บข้อมูล
(storage device)
ภาพแสดง องค์ประกอบของฮาร์ดแวร์
2.
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing
Unit )
หน่วยประมวลผลกลาง หรือเรียกคำย่อว่า
ซีพียู มีความหมายทางด้านฮาร์ดแวร์ 2 อย่างด้วยกันคือ
1.ตัวชิป
(Chip)
ที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกล่องเครื่องที่มีซีพียูบรรจุอยู่
ความหมายส่วนที่ 2 ถ้ามองทางด้านเทคนิคแล้วจะเป็นความหมายที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากตัวชีพียูเป็นชิป คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เหมือนส่วนสมองของระบบคอมพิวเตอร์
ภาพแสดง ลักษณะของซีพียูที่ใช้กับเครื่องไมโครคอมพิเตอร์
3.
หน่วยความจำ
สามารถแยก ประเภทของหน่วยความจำ (memory
) ได้ดังนี้
3.1.หน่วยความจำหลัก
คือ
หน่วยเก็บข้อมูลและคำสั่งต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยชุดความจำข้อมูล ที่สามารถบอกตำแหน่งที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้และสามารถถูกนำออกมาใช้ในการประมวลผลในภายหลัง การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น ต้องใช้พื้นที่ของหน่วยความจำในการทำงานประมวลผลและเก็บข้อมูล ขนาดความจุของหน่วยความจำสามารถคำนวณได้จากค่าจำนวณพื้นที่ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูล และจำนวนพื้นที่คือ จำนวนข้อมูลและขนาดของโปรแกรม ที่สามารถเก็บได้สูงสุดในขณะทำงานถ้าพื้นที่ของหน่วยความจำมีมากจะช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วมากยิ่งขึ้น
หน่วยความจำหลักแบ่งได้
2 ประเภทคือ
1.1 หน่วยความจำแบบ
“แรม”(RAM=Random access memory) หน่วยความจำแรมเป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูล หรือแฟ้มข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราว ขณะทำงาน ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำ จะอยู่ได้นานกว่าจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนส่งให้กับเครื่อง เมื่อปิดเครื่องหรือไฟฟ้าดับข้อมูลที่เก็บไว้จะถูกลบหายไป เรียกหน่วยความจำนี้ว่าหน่วย ความจำแบบลบเลือนได้ (volatile memory)
รูปลักษณะของหน่วยความจำ "แรม"
1.2 หน่วยความจำแบบ
“รอม”
(ROM = Read Only Memory) เป็นหน่วยความจำที่ใช้ในการเก็บโปรแกรมหรือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่ิองคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่ถาวร ไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อนให้กับวงจร ยอมให้ ซีพียู อ่านข้อมูลหรือโปรแกรมใช้งานอย่งเดียว ไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปเก็บไว้โดยง่าย ต้องใช้เทคนิคพิเศษช่วย ส่วนใหญ่ใช้ในการเก็บโปรแกรม ควบคุมเรียกหน่วยความจำประเภทนี้ว่า หน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน(Nonvolatile memory)
รูปลักษณะของหน่วยความจำ "รอม"
3. 2. หน่วยความจำสำรอง (secondary storage) หน่วยความจำชนิดนี้มีไว้สำหรับสำรองหรือทำงานกับข้อมูลและโปรแกรมขนาดใหญ่เนื่องจากขนาดของหน่วยความจำหลักมีจำกัด หน่วยความจำสำรองสามารถเก็บไว้ได้หลายแบบ เช่น แผ่นบันทึก (floppy disk) จานบันทึกแบบแข็ง (hard disk) แผ่นซีดีรอม (CDROM) และ จานแสงแม่เหล็ก เป็นต้น
จานบันทึกข้อมูล
ตัวจานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง
(Hard Disk)
ประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กตั้งแต่หนึ่งแผ่นจนถึงหลายแผ่น และเครื่องขับจาน (Hard Disk Disk)เป็นส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ มีมอเตอร์ทำหน้าที่หมุนแผ่นจานแม่เหล็กด้วยความเร็วสูง มีหัวแม่เหล็กทำหน้าที่อ่านและเขียนข้อมูลต่างๆ ลงบนผิวของแผ่นดังกล่าว ตามคำสั่งของโปรแกรม หรือผู้ปฏิบัติงานต้องการโดยหัวอ่านและเขียนไม่ได้สัมพัสแผ่นโดยตรง แต่เคลื่อนที่ผ่านแผ่นไปเท่านั้นส่วนการบันทึกข้อมูลได้จำนวนมากเพียงใดนั้น อยู่กับเครื่องและรุ่นที่ใช้ปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลที่ตั้งขนาด 500 เมกะไบต์ถึง 80 กิกะไบต์หรือมากกว่า
รูป จานข้อมูลแบบแข็ง (Hard Disk)
แผ่นบันทึกหรือฟลอปปี้ดิสก์
แผ่นบันทึกข้อมูล (Floppy disk) เป็นหน่วยความจำสำรอง ตัวแผ่นทำด้วยพลาสติกชนิดอ่อน
มาตรฐานนิยมใช้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5
นิ้ว ความจุ 1.44 เมกะไบต์ แผ่นบันทึกชนิดพิเศษสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมากถึง
200
เมกะไบต์
รูป แผ่นบันทึกข้อมูลชนิดพิเศษ
ซีดีรอม
ซีดี ย่อมาจากคอมแพกดิสก์
และรอมเป็นคำเดียวกันกับหน่วยความจำแบบรอมคือคำว่า Read Only Memory แผ่นซีดีรอม
(CD-ROM) หรือ
แผ่นซีดี เป็นแผ่นบันทึกข้อมูลที่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์อ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ออกมาใช้ ไม่สามารถบันทึกข้อมูลลงไปได้ ใช้อ่านอย่างเดียว และลักษณะคล้ายแผ่นซีดี เพลงใช้ระบบเสียงเลเซอร์ ในการอ่านข้อมูลที่เก็บเป็นได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เสียง และภาพก้อได้ มีความจุประมาณ 650 เมกะไบต์ หรือสามารถเก็บข้อมูลจากหนังสือประมาณ 500 เล่ม
รูป แผ่นซีดีรอม (สามารถเก็บข้อมูลเท่ากับหนังสือ 500 เล่ม)
ดีวีดี
ดีวีดี ( DVD หรือ
Digitle Versatile Disk ) เป็นแผ่นที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
โดยแผ่นดีวีดีสามารถเก็บข้อมูลได้ไม่ต่ำกว่า 4.7 จิกะไบต์
คาดหมายว่าแผ่นดีวีดีจะถูกนำมาใช้แทนซีดี-รอม เลเชอร์ดิสก์หรือแม้แต่วิดีโอเทป
รูป อุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิด DVD -ROM
จอภาพ
จอภาพ (monitor)
เป็นอุปกรณ์แสดงข้อมูลผลลัพธ์ที่เกิดจากเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแสดงได้ทั้งตัวหนังสือ
ภาพนิ่ง และภาพเครื่องไหว โดยทั่วไปนิยมใช้จอภาพแบบสี สามารถแสดงระดับความแตกต่างของสีตั้งแต่ 16,256,65,536 สีความละเอียดของจุดภาพที่เรียกว่า พิกเซล (Pixel)
รูป จอภาพแบบต่างๆ
แผงแป้นอักษร
แผนแป้นอักขระหรือแป้นพิมพ์ เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์
สามารถรับเข้าข้อมูลจากการกดแป้นพิมพ์เพื่อส่งต่อไปให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
แป้นพิมพ์ที่นิยมใช้จะมี 101
แป้นและแยกแป้นอักขระและตัวเลขออกจากกัน
ส่วนบนจะเป็นแป้นคำสั่งพิเศษเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
รูป แผงแ้ปนอักขระ
เมาส์
(mouse)เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายตัวหนู
เราใช้เมาส์ในการควบคุมตัวชี้
ที่ปรากฏบนจอภาพให้สามารถเลื่อนไปสู่ตำแหน่งต่างๆที่ต้องการได้โดยใช้ง่ายสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมในการควบคุมคำสั่งก็ได้
จะมีปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม
ด้วยกัน
1.ปุ่มซ้ายมือถ้ากดหนึ่งครั้งหมายถึงการเลือกและถ้ากดสองครั้งติดต่อกันหมายถึงสั่งให้โปรแกรมหรือคำสั่งรูปที่เลือกทำงาน
2.ปุ่มขวามือถ้ากดให้แสดงฟังก์ชันพิเศษโดยใช้ตัวชี้เป็นตัวเลือกฟังก์ชันที่ต้องการได้
รูป เมาส์
7.บุคลากร (People)
บุคลากรคอมพิวเตอร์ (People ware) หมายถึง กลุ่มคนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และโปรแกรมเช่น นักเขียนโปรแกรม เป็นผู้นำทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาโปรแกรม นักวิเคราะห์ระบบ เป็นผู้วิเคราะห์ปัญหาและระบบงานที่มีอยู่แล้วเพื่อแก้ปัญหาและออกแบบระบบใหม่ให้ดีกว่าเดิม ผู้บริหารระบบ เป็นผู้ควบคุมจัดการ ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
บุคลากรคอมพิวเตอร์ที่สำคัญได้แก่
-ผู้ดูแลระบบ(System
Administrator)
-นักวิเคราะห์ระบบ(System
Analyst)
-นักเขียนโปรแกรม(Programmer)
-วิศวกรระบบ(System
Engineer)
-วิศวกรเครือข่าย(Network
Engineer)
-ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับสูง(Super
User)
-ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป(User)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น